
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เตรียมจัดมหกรรมด้านนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “Startup x Innovation Thailand Expo 2025 (SITE 2025)” ระหว่างวันที่ 4–6 กรกฎาคม 2568 ณ พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้ธีม “Global Innovation Partnership – AI & Sustainability: The Next Era of Innovation” งานปีนี้ถือเป็นการยกระดับบทบาทของประเทศไทยในฐานะ “ศูนย์กลางความร่วมมือด้านนวัตกรรมของภูมิภาค” อย่างแท้จริง โดยผนึกพันธมิตรจาก 10 ประเทศชั้นนำ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ เช็ก ฮังการี ฟินแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ กาตาร์และชิลี ครอบคลุมทุกภูมิภาคหลักของโลก ทั้งเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา
พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตรจากกว่า 100 หน่วยงาน ที่รวมพลังทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และองค์กรนานาชาติ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อน “นวัตกรรมเพื่ออนาคต” อย่างเป็นรูปธรรมในทุกระดับ ตั้งแต่ธุรกิจท้องถิ่นไปจนถึงความร่วมมือระดับโลก
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA กล่าวว่า “SITE 2025 เป็นมากกว่างานมหกรรม แต่คือพื้นที่ที่ทำให้ความร่วมมือระดับโลกเกิดขึ้นจริงในรูปแบบที่ลึก ครอบคลุม และมีเป้าหมายร่วมกัน ผ่านเทคโนโลยี AI และแนวทางความยั่งยืนที่กำลังเป็นแกนกลางของเศรษฐกิจโลก เพื่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงรูปธรรม ทั้งด้านธุรกิจ การลงทุน และนโยบายนวัตกรรม ในปีนี้ NIA ได้ออกแบบกิจกรรมภายในงานให้เป็นมากกว่าการจัดแสดงเทคโนโลยี โดยจะประกอบด้วย เวทีสัมมนา กว่า 30 หัวข้อ ครอบคลุมทุกมิติของนวัตกรรมโลกบน 3 เวทีหลัก ได้แก่ Main Stage ที่เปรียบเสมือน “หัวใจ” ของงาน รวบรวมฟอรั่มระดับนานาชาติจากผู้นำความคิดระดับโลก ถ่ายทอดวิสัยทัศน์แห่งอนาคต พร้อมอัปเดตเทรนด์ล่าสุดด้าน Global Innovation Partnership, AI และ Sustainability จากทั้งภาครัฐ เอกชนและองค์กรระหว่างประเทศ ต่อเนื่องด้วย Global Stage ซึ่งเป็นเวทีเจาะลึกเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์ มุ่งวิเคราะห์โอกาส ความท้าทาย และแนวทางเชื่อมโยงนวัตกรรมเข้าสู่ตลาดโลก และสุดท้ายกับ Pitch Stage พื้นที่เฉพาะสำหรับสตาร์ตอัปไทยและต่างชาติที่จะได้โชว์ไอเดีย ผลักดันเทคโนโลยี และต่อยอดธุรกิจต่อหน้านักลงทุนจากทั่วโลก โดยไฮไลต์ของเวทีนี้คือ การแข่งขัน Startup Thailand League รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ และการนำเสนอผลงานใน 100 Startup Pitching ซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยีมาแรงอย่าง AI, Deep Tech และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
พร้อมกันนี้ ภายในงานยังมีนิทรรศการจากกว่า 300 สตาร์ตอัปและองค์กรนวัตกรรมชั้นนำที่จะนำผลงานจริง เทคโนโลยีต้นแบบและโซลูชันที่พร้อมขยายสู่ตลาดมาจัดแสดงให้สัมผัสแบบใกล้ชิด รวมถึงกิจกรรม Business Matching กว่า 30 รอบ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับนักลงทุน เจ้าของเทคโนโลยี และพันธมิตรจากทั้งในและต่างประเทศแบบเจาะลึก และ Prime Minister Awards รางวัลเกียรติยศระดับประเทศ ที่จะยกย่ององค์กร สตาร์ตอัป และความร่วมมือด้านนวัตกรรมที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล
ดร.กริชผกา กล่าวทิ้งท้ายว่า “NIA ขอเชิญทุกคนที่มีหัวใจแห่งการสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกร นักลงทุน ผู้ประกอบการ นักศึกษา หรือผู้ที่กำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ SITE 2025 เพราะนี่คือเวทีที่คุณจะได้เชื่อมโยงกับผู้เล่นระดับโลก อัปเดตเทรนด์อนาคต และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปพร้อมโลก ผ่านยุทธศาสตร์ Groom – Grant – Growth – Global อย่างเป็นรูปธรรม”
รวมถึงกิจกรรม Business Matching กว่า 30 รอบ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับนักลงทุน เจ้าของเทคโนโลยี
นอกจากนี้ ในงานแถลงข่าวยังมีช่วงเสวนาพิเศษหัวข้อ “Accelerating Innovation Through Global Partnerships” ซึ่งสะท้อนความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมไทยสู่เวทีโลก โดยในมุมของภาครัฐ นายปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA กล่าวว่า “นวัตกรรมยุคนี้ไม่มีเส้นแบ่งประเทศอีกต่อไป สิ่งที่ NIA กำลังทำ ไม่ใช่แค่ส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีโอกาส แต่คือการวางรากฐานของระบบนิเวศที่ ‘เชื่อมไทยกับโลก’ อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในยุโรปและเอเชีย เราไม่ได้มองแค่นวัตกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่กำลังสร้างโครงสร้างที่เอื้อต่อการเติบโตระยะยาว เพื่อให้สตาร์ตอัปไทยเติบโตได้ไกลขึ้น อย่างยั่งยืนกว่าเดิม” ด้าน นางสาลินี ผลประไพ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันนวัตกรรมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย กระทรวงการต่างประเทศจึงเร่งผลักดันสตาร์ตอัปไทยสู่เวทีโลก ผ่านเครือข่ายสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ 98 แห่งทั่วโลก รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เช่น NIA BOI EEC depa และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุน การเจรจาการค้า การเปิดตลาดและการจับคู่ธุรกิจ พร้อมกันนี้ ยังมีนโยบายวีซ่าเพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพจากต่างประเทศเข้ามาเสริมระบบนิเวศนวัตกรรมในไทยอย่างเป็นระบบ
ในฝั่งของภาคเอกชนและสมาคมธุรกิจนวัตกรรม นายธนพงษ์ ณ ระนอง นายกสมาคมไทยผู้ประกอบการธุรกิจเงินร่วมลงทุน (TVCA) เน้นย้ำว่า “Global Partnership คือหัวใจของการลงทุนยุคใหม่ เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างการ Exit ที่มีมูลค่าสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม AI และ Deep Tech ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก นักลงทุนสมัยนี้มองหาสตาร์ตอัปที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายโลกได้จริง” ขณะที่ นายธนวิชญ์ ต้นกันยา นายกสมาคมการค้าสตาร์ตอัปไทย (TSA) กล่าวถึงความพร้อมของสตาร์ตอัปไทยว่า “วันนี้สตาร์ตอัปไทยต้องกล้าฝันใหญ่ เปิดรับมุมมองใหม่จากนานาชาติ และพัฒนาทักษะ Pitching ที่ตอบโจทย์นักลงทุน ซึ่ง SITE 2025 ถือเป็นสนามจริงในการทดลอง เชื่อมต่อ และต่อยอดเครือข่ายระดับสากล”
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงระดับโลก พร้อมพบกับผู้คิด ผู้สร้างและผู้ลงทุนในระบบนวัตกรรมโลกได้ที่ SITE 2025
ระหว่างวันที่ 4–6 กรกฎาคม 2568 ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนได้ที่: https://site.nia.or.th
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: NIA Thailand